วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

Verb

Verb
กริยา (verb) คือคำหรือกลุ่มคำที่แสดงอาการหรือการกระทำของนาม สรรพนาม หรือประธานของประโยค แบ่งได้ 4 ชนิดคือ
1.Transitive verbs เป็นกริยาที่ต้องการกรรมมารองรับข้างท้าย หากขาดกรรมรองรับ ความสมบูรณ์ขาดหายไป
ตัวอย่าง
He throws rocks. เขาขว้างก้อนหิน
She ate cookies. เธอกินคุกกี้
2.Intransitive verbs เป็นกริยาที่ให้ความสมบูรณ์อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องมีกรรมรองรับข้างท้าย
ตัวอย่าง
She runs quickly. เธอวิ่งอย่างรวดเร็ว
Sunee studies hard. สุนีย์ขยันเรียน

3. Linking verbs เป็นกริยาใช้เชื่อมประธานของประโยคเข้ากับตัวขยายซึ่งอาจจะเป็นนามหรือคุณศัพท์ก็ได้ เพื่อแสดงสภาพอะไรสักอย่าง (a state of being) ได้แก่ be, seem, appear, look, become, get, turn, taste, feel, remain, sound, grow
ตัวอย่าง
Klinton become President of the U.S.A.
คลินตัน ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
She felt sick during the play.
เธอรู้สึกไม่สบายในระหว่างทำการแสดง
โดยสรุป Linking verbs + NOUN / ADJECTIVE

4. Helping verbs
เป็นกริยาช่วย ที่นำมาใช้ร่วมกับกริยาแท้ ได้แก่ be, have, has, had, can, could, will, would, may, might, must, do, does, did, ought to เป็นต้น ซึ่งจะขอกล่าวถึงกริยาช่วยที่สำคัญและพบในข้อสอบบ่อยมีดังนี้
4.1 กริยาช่วยที่ใช้แสดงความสามารถ (ability) คือ
(1) can และ could ใช้ can+verb ใน present/future time และ could+verb ใน past time และใช้ can not (= can't)+verb หรือ could not (=couldn't)+verb เพื่อชี้แสดงการไร้ความสามารถ
ตัวอย่าง
He can swim very well.
เขาว่ายน้ำเก่ง
She could drive when she was sixteen.
เธอขับรถเป็นเมื่ออายุ 16 ปี
He couldn't come yesterday.
เมื่อวานนี้เขามาไม่ได้
(2) be able to ใช้ is/am/are able to + verb ใน present time และใช้ was / were able to+verb ใน past time ส่วน will be able to หรือ be going to be able to + verb ใช้ใน future time
ตัวอย่าง
I'm able to drive a car now.
ตอนนี้ฉันขับรถได้แล้ว
We are going to be able to see you tomorrow.
พวกเราจะสามารถพบคุณพรุ่งนี้.

4.2 กริยาช่วยที่ใช้ในการขออนุญาตและให้อนุญาต คือ
(1) การขออนุญาต ใช้

may+ verb
can
could
ตัวอย่าง
May I leave now?
ผมขออนุญาตไปตอนนี้ได้ไหมครับ?
Can I borrow you book?
ผมขอยืมหนังสือของคุณหน่อยได้ไหม
Could I turn in my paper tomorrow?
ผมขออนุญาตส่งงานพรุ่งนี้ได้ไหมครับ

(2) การให้อนุญาต ใช้

may+ verb
can
could
ตัวอย่าง
You may leave now.
คุณไปได้แล้วครับ
You could have an appointment tomorrow.
คุณสามารถนัดหมายได้พรุ่งนี้

หากไม่อนุญาต ก็ใช้ not เติมหลังกริยาช่วยเป็น cannot, may not could not
ตัวอย่าง
You can't come in just now.
คุณเข้ามาตอนนี้ไม่ได้.

4.3 กริยาช่วยที่ใช้แสดงการบังคับ (obligation) และความจำเป็น (necessary)
(1) should และ ought to ใช้แสดงเชิงบังคับว่าควรจะต้องทำ วิธีใช้คือ

should+ verb
ought to
ตัวอย่าง
You should be ashamed of yourself.
คุณควรจะละอายตัวเอง
She ought to improve her appearance before she looks for a job.
เธอควรจะปรับปรุงบุคลิกของตัวเองก่อนที่จะหางานทำ

should have+ verb
ought to have
เพื่อแสดงว่าเป็นสิ่งที่ควรจะทำ แต่ไม่ได้ทำลงไป
ตัวอย่าง
I should have given you my telephone number.
ฉันควรที่จะได้ให้เบอร์โทรศัพท์ของฉันแก่คุณ
(จริงแล้วไม่ได้ให้ เลยเสียใจที่ไม่ได้ให้)
The ought to have given us their new address.
พวกเขาควรที่จะได้ให้ที่อยู่ให้ของพวกเขาแก่เรา
(จริง ๆ แล้ว ไม่ได้ให้ที่อยู่ใหม่ไว้)
should ยังใช้ในประโยคปฏิเสธหรือคำถาม เช่น
You shouldn't smoke so much. คุณไม่ควรสูบบุหรี่จัดมาก
Should I ask Jane now? ฉันควรถามเจนแล้วยัง

(2) Had better + verb ใช้แสดงความรู้สึกเชิงบังคับว่าควรจะทำ
ตัวอย่าง
You had better take care of yourself.
คุณควรจะดูแลตัวเอง
ใช้ had better not + verb เพื่อชี้แนะว่าไม่ควรจะทำสิ่งนั้น
ตัวอย่าง
He'd better not be late again.
เขาไม่ควรจะมาสายอีก

(3) Must และhave to ใช้แสดงการบังคับ ข่มขู่ว่าจะต้องทำ หรือต้องไม่ทำ (must not)

must+ verb
have / has to
ตัวอย่าง
They must be there o­n time.
พวกเขาจะต้องถึงที่นั่นตรงเวลา (ไม่มีข้อแม้)
You have to study tonight.
คืนนี้คุณจะต้องเรียน (ไม่มีข้อแม้)
You must not disturb him.
คุณจะต้องไม่รบกวนเขา (ห้ามรบกวนเด็ดขาด)

4.4 กริยาช่วยที่แสดงความเป็นไปได้ (possibility) และความน่าจะเป็น (probability)
(1) may และ might ใช้ may / might + verb

ตัวอย่าง
She may change her mind
เธออาจจะเปลี่ยนใจของเธอ
She might have to move to New York.
เธออาจจะย้ายไปอยู่นิวยอร์ค
หากจะใช้แบบปฏิเสธก็เติม not ท้าย may หรือ might

(2) should และ ought to ใช้แสดงความน่าจะเป็นที่ใกล้จะบรรลุตามความหมาย โดยมีหลัก should / ought to + verb
ตัวอย่าง

You
should
ought to
receive that package by next Tuesday
คุณน่าจะได้รับหีบห่อภายในอังคารหน้า
ในรูปอดีต (past time) ใช้ should have/ought to have + Verb 3 (หรือ past participle) เพื่อชี้แสดงความคาดหวังที่ไม่บรรลุผล เช่น
He should/ought to have arrived yesterday
เขาน่าที่จะได้มาถึงเมื่อวานนี้ (แต่ไม่ถึง)

(3) Must ใช้แสดงความน่าจะเป็นที่มีความเป็นไปได้สูงมาก ซึ่งใกล้จะบรรลุผลตามความคาดหวังแล้ว
ตัวอย่าง
He's not here. He must be out to lunch.
เขาไม่อยู่ที่นี่ เขาคงจะต้องไปทานข้าวแน่ ๆ
หากเป็น past tense ใช้ must have+ Verb 3 หมายถึงจะต้องทำไปแล้วแน่ ๆ
ตัวอย่าง
His car is gone. He must have decide to go home early.
รถของเขาไปแล้ว เขาจะต้องได้ตัดสินใจกลับบ้านแต่เช้าแน่ ๆ

4.5 กริยาช่วยวลีที่ใช้แสดงความชอบหรือความต้องการ
(1) would rather + verb
ตัวอย่าง
I would rather have steak than chicken
ฉันอย่างทานสเต็กมากกว่าไก่
หากเป็น past time ใช้ would rather have + Verb 3
ตัวอย่าง
We'd rather have gone to the baseball game
เราอยากไปดูกีฬาเบสบอล
ใช้ would rather not + verb เพื่อชี้แสดงความชอบหรือความปรารถนาที่ไม่ทำบางสิ่งบางอย่าง
ตัวอย่าง
We would rather not talk about that any more.
เราไม่อยากจะคุยถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว.

4.6 กริยาช่วยที่ใช้แสดงความต้องการและความประสงค์ (wants and sires)
(1) would + verb. I would ใน present/future time
I'm hungry. I would like a sandwich.
ผมหิว ผมอยากจะทานแซนด์วิช
(2) would have + Verb3 เมื่อเป็น past time
I'd have been glad to show you around the city.
ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะพาคุณชมรอบเมือง

4.7 กริยาช่วยที่นำมาใช้แบบ causative form
Have, Has, Had ใช้แสดงถึงสิ่งที่เราเองไม่ได้เป็นผู้กระทำ แต่จ้างวานให้คนอื่นทำให้มีหลักเกณฑ์คือ
- have /get + something + verb3
I have my hair cut
ผมให้คนตัดผมของผม
- have / has + someone + Verb หรือ
get / got + someone + Verb
I will have Mary water my flowers.
I will get Mary to water my flowers.
ผมจะว่าจ้างแมรี่ให้มารดน้ำต้นไม้ของผม